8 เมษายน 2568

จากตัวเลขสู่หัวใจ: เส้นทางนักวิเคราะห์สินเชื่อที่ตรีเพชร

นัทยา ภัทรชลิต

ดิฉันเป็นนักวิเคราะห์สินเชื่อ มีประสบการณ์งานมาแล้วหลายที่ แต่ละที่ล้วนอยู่ใจกลางเมือง เพราะดิฉันเป็นสาวสุขุมวิท ครั้งแรกที่เข้ามาสมัครงานที่ ตรีเพชร กรุ๊ป แค่การเดินทางก็หนักหนาอยู่ เพราะสมัยนั้นยังไม่มี BTS สถานีพหลโยธิน 24 แถมวันนั้น HR นัด 9 โมง แต่ได้ออกจาก Office 4 โมงเย็น การเข้าทำงานที่นี่ไม่ง่ายเลย มีการสอบคัดตัว ยิ่งกว่าสอบ License

เริ่มงานวันแรกก็สุดแสนประทับใจ เพราะบริษัทญี่ปุ่นเคร่งครัดเรื่องเวลาเป็นอย่างมาก เข้างานเวลา 8.30 น. ก็ต้องมาให้ทัน ดิฉันไม่เคยได้เดินเข้างานสวยๆเลย มีแต่ วิ่ง วิ่ง วิ่ง วันแล้ววันเล่า จนกระทั่งวัฒนธรรมนี้ฝั่งลึกในจิดใจว่า เวลาเป็นทรัพยากรที่มีค่าของทุกคน ฉะนั้นต้องรู้จักรักษาเวลา และเวลามีอยู่อย่างจำกัด ต้องรู้จักบริหารจัดการเวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งเพื่อตัวเราเอง และที่สำคัญเพื่อรับมือกับ KPI ของที่นี่

วันแรกที่เริ่มงาน ที่ ตรีเพชร กรุ๊ป อุปกรณ์ทุกอย่างเตรียมให้พร้อม ดิฉันมาแต่ตัวจริงๆ รวมถึง Mentor ที่จะสอนงาน แค่เห็นเอกสารที่เตรียมมาสอนก็รู้ถึงความตั้งใจ แต่เอาเข้าจริง สอนงานได้เพียงครึ่งวันเช้า พอตกบ่าย เสียงหัวหน้าก็ลอยมาว่า “เปิด Box ทำงานให้เด็กใหม่เลย เรารับคนมีประสบการณ์มานี่” สรุปชีวิตการทำงานที่นี่ของฉันจึงเป็นแบบ “Learning by doing” ตั้งแต่วันแรกจนถึงปัจจุบัน

ในฐานะนักวิเคราะห์สินเชื่อ ความคิดแรกของดิฉันคือ “งานนี้เกี่ยวกับตัวเลขล้วนๆ” หน้าที่หลักคือการวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงิน ตรวจสอบเครดิต และประเมินความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อรถยนต์ โดยมีความเชื่อว่าถ้า credit scoring ดี เคสก็ผ่าน ถ้าตัวเลขไม่ถึง ก็ต้องปฏิเสธ

วันแล้ววันเล่าผ่านไป การทำงานอยู่หลังหน้าจอคอมพิวเตอร์ จมอยู่กับเอกสารและโมเดลวิเคราะห์สินเชื่อต่างๆ ตามปกติ แต่สิ่งที่ดิฉันไม่รู้คือ เบื้องหลังตัวเลขเหล่านั้นคือชีวิตของคนจริง ๆ

วันหนึ่ง ดิฉันได้เรียนรู้ว่า ลูกค้าส่วนใหญ่ของที่นี่ ไม่ได้มีเอกสารทางการเงินที่สวยหรู รายได้ไม่สูงมากนัก และภาระหนี้เดิมก็มีอยู่ เมื่อดูแค่ตัวเลข โอกาสอนุมัติสินเชื่อของเขาอาจน้อยมาก แต่วัตถุประสงค์ของลูกค้าส่วนมากคือ ต้องการขอสินเชื่อ เพื่อซื้อรถกระบะสำหรับใช้ในธุรกิจขนส่ง และพบว่า ลูกค้ามีแผนธุรกิจที่ชัดเจน มีลูกค้ารอใช้บริการแล้ว สามารถตรวจสอบได้ ขาดแค่เพียงพาหนะสำหรับเริ่มต้นธุรกิจ ถ้าไม่ได้รับสินเชื่อนี้ ธุรกิจของเขาคงต้องพับไป และครอบครัวของเขาอาจลำบาก ดิฉันนั่งคิดอยู่พักใหญ่ นี่คือจุดที่ทำให้เราเริ่มเข้าใจว่า สินเชื่อไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่มันคือโอกาสในชีวิตของใครบางคน

หลังจากนั้น จึงเริ่มปรับวิธีคิดเกี่ยวกับงานของตัวเอง ได้เรียนรู้ว่า การเป็นนักวิเคราะห์สินเชื่อที่ดี ไม่ใช่แค่การอ่านงบการเงิน แต่ต้องอ่านชีวิตของลูกค้าด้วย และที่ ตรีเพชร กรุ๊ป ดิฉันได้เรียนรู้แนวคิดที่ท่านประธานพร่ำบอกว่า “เราต้องเติบโตไปพร้อมกับลูกค้า” ไม่ใช่แค่ปล่อยสินเชื่อให้ผ่าน แต่ต้องมั่นใจว่าสินเชื่อนั้นจะช่วยให้ลูกค้าดำเนินชีวิตได้ดีขึ้น และบริษัทก็สามารถบริหารความเสี่ยงได้อย่างสมดุล ภายใต้โมเดล 4 Wins (Customer, TIL, TIS and Dealer) อีกทั้งหัวหน้ายังถ่ายทอดความรู้จากประสบการณ์การทำงานกับ ตรีเพชร กรุ๊ป โดยสอนให้ดิฉันพิจารณามากกว่าตัวเลข เปิดใจรับฟังมุมมองของลูกค้า และหาแนวทางสนับสนุนพวกเขาโดยที่ไม่ทำให้บริษัทต้องรับความเสี่ยงมากเกินไป ต้องสนับสนุนการตลาดของ TIS สร้างความสัมพันธที่ดีกับ Dealer ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจที่ยั่งยืน

จากวันแรกที่คิดว่า “งานนี้แค่ดูตัวเลข” จนวันนี้เข้าใจแล้วว่า ทุกเคสที่วิเคราะห์ไม่ใช่แค่เอกสาร แต่คือชีวิตของใครบางคนที่กำลังมองหาโอกาส และตรีเพชร กรุ๊ป ไม่ได้แค่ปล่อยสินเชื่อรถยนต์ แต่เรากำลังช่วยให้ลูกค้าสร้างอนาคตของพวกเขาเพื่อให้เราเติบโตไปด้วยกัน และนั่นคือสิ่งที่ทำให้งานของดิฉันมีความหมายมากขึ้นทุกวัน “เพราะแม้ตัวเลขไม่เคยโกหก แต่บางครั้ง หัวใจก็สำคัญกว่าตัวเลข”

เวลาผ่านไป 10 ปีแล้วที่ดิฉันร่วมงานกับ ตรีเพชร กรุ๊ป และเราเพิ่งฉลองวันครบครอบ 40 ปี TIL ไปเมื่อไม่นาน เราผ่านอุปสรรคด้วยกันมาไม่ใช่น้อย ทั้งโควิด 19 ที่ทั้งโลกระส่ำ หลายบริษัทล้มหาย แต่ ตรีเพชร กรุ๊ป ยังคงแข็งแกร่งเหมือนต้นไม้ใหญ่ที่เป็นที่พักพิงที่มั่นคงให้กับพนักงานอย่างแท้จริง

โดย คุณนัทยา ภัทรชลิต